พุธรับเถ้า (ปี A)
เทศกาลมหาพรต
เทศกาลมหาพรต เป็นช่วงเวลาประมาณห้าสัปดาห์ก่อนเทศกาลปัสกา มีลักษณะสำคัญ ประจำเทศกาลนี้ 2 ประการ คือวันนี้ ในพิธีบูชาขอบพระคุณมีพิธีเสกและโรยเถ้า ใช้เถ้าจากใบลานหรือกิ่งไม้อื่นที่ใช้ในพิธีแห่ของอาทิตย์ใบลานปีก่อน พิธีบูชาขอบพระคุณเริ่มโดยไม่มีการสารภาพผิด เพราะมีการโรยเถ้าแทนแล้ว การเสกและโรยเถ้า ให้ทำหลังเทศน์ พิธีเสกและโรยเถ้าจะทำโดยไม่มีพิธีบูชาขอบพระคุณก็ได้ ในกรณีนี้ ให้มีวจนพิธีกรรมก่อนโดยใช้บทเพลงเริ่มพิธี บทภาวนาของประธาน บทอ่านต่างๆ กับบทเพลงประกอบเหมือนในพิธีบูชาขอบพระคุณ เมื่อเทศน์เสร็จแล้วจึงเสกและโรยเถ้า พิธีจบลงด้วยบทภาวนาของมวลชน
- เป็นเทศกาลเตือนให้คิดถึงศีลล้างบาปของเรา หรือเป็นการเตรียมตัว ผู้ปรารถนารับศีลล้างบาปเข้าเป็นคริสตชน
- เป็นเทศกาลที่เตือนใจบรรดาสัตบุรุษให้กลับใจใช้โทษบาป ในเทศกาลนี้ ควรเตือนใจสัตบุรุษให้เอาใจใส่ฟังพระวาจาของพระเจ้า อธิษฐานภาวนา และบำเพ็ญกิจเมตตาปรานีต่อเพื่อนมนุษย์มากยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมตนสมโภชปัสกา ระลึกถึงพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงรับทรมานและ ทรงกลับคืนพระชนมชีพ
เริ่มพิธี
1. เมื่อสัตบุรุษประชุมพร้อมกันแล้ว พระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีกับผู้ช่วยเดินไปยังพระแท่นบูชา ระหว่างนั้นขับร้อง “เพลงเริ่มพิธี”
เพลงเริ่มพิธี
เทียบ ปชญ 11:23-24, 25
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเมตตาต่อทุกคน ไม่ทรงรังเกียจสิ่งใดที่ทรงเนรมิต ทรงมองข้ามบาปของมนุษย์ เพื่อเขาจะได้เป็นทุกข์กลับใจ พระองค์ทรงอภัยโทษ เพราะทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
ไม่มีการสารภาพผิด
2. ครั้นถึงพระแท่นบูชา พระสงฆ์กับผู้ช่วยแสดงความเคารพตามแบบที่กำหนด (ไหว้หรือโค้งคำนับ) แล้วพระสงฆ์กราบพระแท่นบูชา (และจะถวายกำยานที่พระแท่นบูชาก็ได้สุดแต่กรณี) ต่อจากนั้นพระสงฆ์กับผู้ช่วยไปยังที่นั่ง เมื่อขับร้อง “เพลงเริ่มพิธี” จบแล้ว พระสงฆ์นำสัตบุรุษทำเครื่องหมายกางเขน ทุกคนยืนตั้งแต่เริ่มพิธีจนจบบทภาวนาของประธาน
เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต
อาเมน
ครั้นแล้ว พระสงฆ์หันหน้าไปทางสัตบุรุษ กางแขนเล็กน้อยหรือพนมมือ ปราศรัยต้อนรับสัตบุรุษว่า
ขอพระหรรษทานของพระเยซูคริสตเจ้าความรักของพระบิดา และความสนิทสัมพันธ์ของพระจิตสถิตกับท่านทั้งหลาย
และสถิตกับท่านด้วย
ขอพระหรรษทานและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซูคริสตเจ้า สถิตกับท่านทั้งหลาย
และสถิตกับท่านด้วย
พระเจ้าสถิตกับท่าน
และสถิตกับท่านด้วย
3. พระสงฆ์หรือสังฆานุกรหรือผู้ช่วย อธิบายความหมายการฉลองวันนั้นอย่างสั้นๆ ก็ได้
อันดับต่อไปเป็นการสารภาพความผิด พระสงฆ์เชิญชวนสัตบุรุษให้เป็นทุกข์ถึงบาปว่า
พี่น้อง ให้เรายอมรับว่าเราเป็นคนบาป
เพื่อจะได้ร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างสมควร
เงียบสักครู่หนึ่ง แล้วทุกคนสารภาพบาปพร้อมกันว่า
เพื่อจะได้ร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างสมควร
ข้าพเจ้าขอสารภาพต่อพระเจ้า
ผู้ทรงสรรพานุภาพและต่อพี่น้องด้วย
ว่าข้าพเจ้าได้ทำบาปมากมาย ด้วยกาย วาจา ใจ และด้วยการละเลย
ข้าพเจ้าเป็นคนบาป ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นคนบาป (ข้อนอกเพียงครั้งเดียว)
ดังนั้น ขอพระนางมารีย์ ผู้ทรงเป็นพรหมจารีเสมอ
ขอทูตสวรรค์และนักบุญทั้งหลายและพี่น้องด้วย
ช่วยวิงวอนพระเจ้าเพื่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ
ว่าข้าพเจ้าได้ทำบาปมากมาย ด้วยกาย วาจา ใจ และด้วยการละเลย
ข้าพเจ้าเป็นคนบาป ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นคนบาป (ข้อนอกเพียงครั้งเดียว)
ดังนั้น ขอพระนางมารีย์ ผู้ทรงเป็นพรหมจารีเสมอ
ขอทูตสวรรค์และนักบุญทั้งหลายและพี่น้องด้วย
ช่วยวิงวอนพระเจ้าเพื่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ
ต่อจากนั้นพระสงฆ์กล่าว “บทขออภัยบาป”
ขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงพระกรุณาอภัยบาป
และนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร
และนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร
อาเมน
พี่น้อง ให้เรายอมรับว่าเราเป็นคนบาปเพื่อจะได้ร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างสมควร
เงียบสักครู่หนึ่ง แล้วพระสงฆ์กล่าวว่า
ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระเมตตาข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด
เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำกระทำผิดต่อพระองค์
โปรดแสดงพระเมตตาต่อข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด
โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้นเทอญ
ต่อจากนั้น พระสงฆ์กล่าว “บทขออภัยบาป”
ขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงพระกรุณาอภัยบาป
และนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร
และนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร
อาเมน
พี่น้อง ให้เรายอมรับว่าเราเป็นคนบาป
เพื่อจะได้ร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างสมควร
เพื่อจะได้ร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างสมควร
เงียบสักครู่หนึ่ง แล้วพระสงฆ์ หรือผู้ช่วยพิธี กล่าวบทต่อไปนี้หรือแบบอื่นที่ลงท้ายด้วย “บทร่ำวิงวอน”
พระองค์ทรงรับใช้พระบิดา มาประทานอภัยแก่ผู้สำนึกผิด
ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
พระองค์เสด็จมาเรียกคนบาปให้เป็นทุกข์กลับใจ
ข้าแต่พระคริสตเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระคริสตเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระคริสตเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
พระองค์ประทับเบื้องขวาพระบิดา
เพื่ออธิษฐานแทนข้าพเจ้าทั้งหลาย ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
เพื่ออธิษฐานแทนข้าพเจ้าทั้งหลาย ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ต่อจากนั้นพระสงฆ์กล่าว “บทขออภัยบาป”
ขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงพระกรุณาอภัยบาป
และนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร
และนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร
อาเมน
4. อันดับต่อไปเป็น “บทร่ำวิงวอน” ซึ่งไม่ต้องใช้ ถ้ากล่าว “บทสารภาพบาป” ในแบบที่ 3 แล้ว
ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระคริสตเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระคริสตเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระเจ้า ทรงพระกรุณาเทอญ
5. ยกเว้น “บทพระสิริรุ่งโรจน์”
6. พระสงฆ์พนมมือ กล่าวว่า
ให้เราภาวนา
ทุกคนพร้อมกับพระสงฆ์ภาวนาเงียบๆ สักครู่หนึ่ง แล้วพระสงฆ์พนมมือกล่าว “บทภาวนาของประธาน”
บทภาวนาของประธาน
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายถือศีลอดอาหาร เริ่มเทศกาลมหาพรตเพื่อต่อสู้กับกิเลส โปรดประทานความช่วยเหลือ ให้ข้าพเจ้าทุกคนรู้จักบังคับตนอย่างเข้มแข็ง จะได้มีชัยชนะความชั่วร้ายฝ่ายจิตใจด้วยเถิด ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรผู้ทรงจำเริญและครองราชย์ เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวกับพระองค์ และพระจิต ตลอดนิรันดร
สัตบุรุษตอบว่า
อาเมน
ภาควจนพิธีกรรม
7. ผู้อ่านเดินไปที่บรรณฐาน อ่าน “บทอ่าน” ที่หนึ่ง ทุกคนนั่งฟัง
บทอ่านจากหนังสือประกาศกโยเอล
ยอล 2:12-18
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ท่านทั้งหลายจงกลับมาหาเราด้วยสุดจิตสุดใจเถิด
จงจำศีลอดอาหาร ร่ำไห้ และไว้ทุกข์คร่ำครวญ จงฉีกใจของท่าน มิใช่ฉีกเสื้อผ้า
จงกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน” เพราะพระองค์ทรงเมตตาและกรุณา
ไม่ทรงโกรธง่าย ทรงเปี่ยมด้วยความรักมั่นคง ทรงสงสารและไม่ทรงลงโทษ
ใครจะรู้ได้ พระองค์อาจจะทรงเปลี่ยนพระทัยสงสาร กลับมาประทานพระพร
ท่านถวายผลิตผลเป็นธัญบูชาและเทเหล้าองุ่น ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน
จงเป่าแตรเขาสัตว์ในศิโยน จงประกาศให้มีการจำศีลอดอาหาร
จงเรียกประชาชนให้มาชุมนุมกัน จงเรียกประชาชนให้มาพร้อมกัน
จงประกาศให้มีการประชุม จงเรียกบรรดาผู้อาวุโสมาชุมนุมกัน
จงรวบรวมเด็กๆ แม้ทารกที่ยังกินนม จงให้เจ้าบ่าวออกมาจากห้องหอ
และให้เจ้าสาวออกจากห้องวิวาห์ จงให้บรรดาสมณะผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ร่ำไห้อยู่ระหว่างเฉลียงกับพระแท่นบูชา ทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเมตตาประชากรของพระองค์เถิด”
ขออย่าทรงทำให้มรดกของพระองค์ถูกลบหลู่ และถูกนานาชาตินินทาว่าร้าย
ทำไมชนชาติทั้งหลายจะต้องพูดว่า “พระเจ้าของเขาอยู่ที่ไหน”
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหวงแหนแผ่นดินของพระองค์ ทรงสงสารประชากรของพระองค์
เมื่ออ่านจบแล้ว ผู้อ่านเสริมว่า
พระวาจาของพระเจ้า
ขอขอบพระคุณพระเจ้า
8. ขับร้อง หรืออ่าน “เพลงสดุดี” ฝ่ายสัตบุรุษรับ “บทสร้อย”
สร้อย
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระกรุณาเถิด เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้กระทำบาป
(หรือเพลงที่ 47) โปรดทรงพระเมตตาเถิด พระเจ้าข้า เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป
เพลงสดุดี
สดด 51:1-2, 3-4กข, 10-11, 12 และ 15
ก. ข้าแต่พระเจ้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าตามความรักมั่นคงของพระองค์เถิด โปรดทรงลบล้างการล่วงละเมิดของข้าพเจ้าเพราะพระกรุณาของพระองค์ โปรดทรงล้างข้าพเจ้าให้สะอาดหมดจดจากความผิดของข้าพเจ้า โปรดชำระข้าพเจ้าให้บริสุทธิ์จากบาปที่ข้าพเจ้าได้กระทำ ข. เพราะข้าพเจ้าตระหนักดีถึงการล่วงละเมิดของตน บาปของข้าพเจ้าอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้าเสมอ ข้าพเจ้าทำบาปผิดต่อพระองค์ พระองค์แต่ผู้เดียว ข้าพเจ้ากระทำสิ่งที่ทรงเห็นว่าชั่วร้าย ค. ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงสร้างใจที่ใสสะอาดไว้ในข้าพเจ้า โปรดทรงฟื้นฟูดวงจิตของข้าพเจ้าให้มั่นคง ขออย่าทรงผลักไสข้าพเจ้าไปจากพระพักตร์ ขออย่าทรงยกพระจิตศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ออกจากข้าพเจ้าเลย ง. ขอพระองค์ประทานความชื่นชมที่ทรงช่วยให้รอดพ้นคืนให้ข้าพเจ้า ขอพระองค์ทรงค้ำจุนจิตเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไว้ในข้าพเจ้า ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเผยริมฝีปากของข้าพเจ้า แล้วปากของข้าพเจ้าจะกล่าวสรรเสริญพระองค์
9. หากมี “บทอ่าน” สามบท ผู้อ่านก็อ่านบทที่สอง ที่บรรณฐานเดิมเช่นกัน
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่สอง
2 คร 5:20-6:2
%paraพี่น้อง เราจึงเป็นทูตแทนพระคริสตเจ้า ประหนึ่งว่าพระเจ้าทรงใช้เราให้ เชิญชวนท่านทั้งหลาย เราจึงขอร้องแทนพระคริสตเจ้าว่า จงยอมคืนดีกับพระเจ้าเถิดเพราะเห็นแก่เรา พระเจ้าทรงทำให้พระองค์ผู้ไม่รู้จักบาปเป็นผู้รับบาป เพื่อว่าในพระองค์เราจะได้กลายเป็นผู้ชอบธรรมของพระเจ้า %paraในฐานะผู้ร่วมงานของพระเจ้า เราขอร้องท่านทั้งหลาย อย่าเพียงแต่รับพระหรรษทานของพระองค์ไว้โดยไม่เกิดผล พระองค์ตรัสว่า “ในเวลาที่เหมาะสม เราได้รับฟังท่าน และในวันแห่งความรอดพ้น เราได้ช่วยเหลือท่าน” %paraขณะนี้คือเวลาที่เหมาะสม ขณะนี้คือวันแห่งความรอดพ้น
เมื่ออ่านจบแล้ว ผู้อ่านเสริมว่า
พระวาจาของพระเจ้า
ขอขอบพระคุณพระเจ้า
10. ต่อไปขับร้องบท “อัลเลลูยา” หรือเพลงอื่น
ก่อนพระวรสาร
สดด 95:8
(เพลงที่ 83) ขอสรรเสริญเยินยอพระองค์ ราชาธิราชผู้ทรงเกียรตินิรันดร ในวันนี้ อย่าทำใจแข็งเลย แต่จงฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าเถิด
ระหว่างนั้นหากใช้กำยาน พระสงฆ์ตักกำยานใส่เต้ากำยาน
แล้วสังฆานุกรผู้มีหน้าที่ประกาศพระวรสารโค้งคำนับ ขอพรจากพระสงฆ์ กล่าวเบาๆ ว่า
ขอคุณพ่ออวยพรข้าพเจ้า
พระสงฆ์ตอบเบาๆ ว่า
ขอให้พระเจ้าอยู่กับใจและปากของท่าน
เพื่อประกาศพระวรสารอย่างเหมาะสม
เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร ✠ และพระจิต
เพื่อประกาศพระวรสารอย่างเหมาะสม
เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร ✠ และพระจิต
สังฆานุกรตอบเบาๆ ว่า
อาเมน
หากไม่มีสังฆานุกร พระสงฆ์หันไปยังพระแท่นบูชา โค้งคำนับ กล่าวเบาๆ ว่า
ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ โปรดชำระใจและปากข้าพเจ้า
เพื่อประกาศพระวรสารอย่างเหมาะสม
เพื่อประกาศพระวรสารอย่างเหมาะสม
12. ครั้นแล้ว สังฆานุกรหรือพระสงฆ์เดินไปที่บรรณฐาน ผู้ช่วยอื่นๆ (ถือกำยานและเทียน สุดแต่กรณี) เดินไปพร้อมกัน ผู้ประกาศพระวรสารกล่าวว่า
พระเจ้าสถิตกับท่าน
และสถิตกับท่านด้วย
สังฆานุกร หรือพระสงฆ์กล่าวต่อไปว่า
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญ….
ระหว่างนั้น สังฆานุกรหรือพระสงฆ์ ทำเครื่องหมายกางเขนบนหนังสือ บนหน้าผาก ปาก และหน้าอก
ขอถวายพระเกียรติแด่พระองค์ พระเจ้าข้า
หากใช้กำยาน สังฆานุกรหรือพระสงฆ์ ถวายกำยานให้แก่หนังสือ แล้วอ่านพระวรสาร
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว
มธ 6:1-6, 16-18
%paraเวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า %para“จงระวัง อย่าปฏิบัติศาสนกิจของท่านต่อหน้ามนุษย์เพื่ออวดคนอื่น มิฉะนั้น ท่านจะไม่ได้รับบำเหน็จจากพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ %paraดังนั้น เมื่อท่านให้ทาน จงอย่าเป่าแตรข้างหน้าท่านเหมือนที่บรรดาคนหน้าซื่อใจคดมักทำในศาลาธรรม และตามถนนเพื่อจะได้รับคำสรรเสริญจากมนุษย์ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว ส่วนท่าน เมื่อให้ทาน อย่าให้มือซ้ายของท่านรู้ว่ามือขวากำลังทำสิ่งใด เพื่อทานของท่านจะได้เป็นทานที่ไม่เปิดเผย แล้วพระบิดาของท่านผู้ทรงหยั่งรู้ทุกสิ่ง จะประทานบำเหน็จให้ท่าน %paraเมื่อท่านอธิษฐานภาวนา จงอย่าเป็นเหมือนบรรดาคนหน้าซื่อใจคด เขาชอบยืนอธิษฐานภาวนาในศาลาธรรม และตามมุมลานเพื่อให้ใครๆ เห็น เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว ส่วนท่าน เมื่ออธิษฐานภาวนา จงเข้าไปในห้องส่วนตัว ปิดประตู อธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้สถิตอยู่ทั่วทุกแห่ง แล้วพระบิดาของท่านผู้ทรงหยั่งรู้ทุกสิ่งจะประทานบำเหน็จให้ท่าน %paraเมื่อท่านทั้งหลายจำศีลอดอาหาร จงอย่าทำหน้าเศร้าหมองเหมือนบรรดาคนหน้าซื่อใจคด เขาทำหน้าหมองคล้ำ เพื่อแสดงให้ผู้คนรู้ว่าเขากำลังจำศีลอดอาหาร เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว ส่วนท่าน เมื่อจำศีลอดอาหาร จงล้างหน้า ใช้น้ำมันหอมใส่ศีรษะ เพื่อไม่แสดงให้ผู้คนรู้ว่าท่านกำลังจำศีลอดอาหาร แต่ให้พระบิดาของท่านผู้สถิตอยู่ทั่วทุกแห่งทรงทราบ และพระบิดาของท่านผู้ทรงหยั่งรู้ทุกสิ่ง ก็จะประทานบำเหน็จให้ท่าน”
13. เมื่ออ่านจบแล้ว สังฆานุกรหรือพระสงฆ์ กล่าวว่า
พระวาจาของพระเจ้า
ขอพระคริสตเจ้า ทรงพระเจริญเทอญ
ครั้นแล้ว สังฆานุกรหรือพระสงฆ์ กราบหนังสือ พลางกล่าวเบาๆ ว่า
ขอพระวรสารที่อ่านแล้ว บันดาลให้เราแคล้วจากมลทิน
14. จากนั้น พระสงฆ์แสดงธรรมเทศนา ซึ่งต้องมีทุกวันอาทิตย์ และวันฉลองบังคับ ส่วนวันอื่นๆ ก็ควรมี
การเสกและโรยเถ้า
(เมื่อเทศน์แล้ว พระสงฆ์ยืนพนมมือ กล่าวว่า) พี่น้องทั้งหลาย ให้เรากราบวอนขอพระบิดาเจ้า ได้ประทานพระพรอย่างอุดม ทรงเสกเถ้าที่จะใช้โปรยศีรษะ เป็นเครื่องหมายแห่งการกลับใจใช้โทษบาป (อธิษฐานภาวนาเงียบๆ สักครู่หนึ่ง แล้วพระสงฆ์กล่าวต่อไปว่า) ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงกรุณาปรานีผู้ถ่อมตน ทรงเมตตาสงสารผู้ใช้โทษบาป โปรดสดับฟังคำวอนขอของข้าพเจ้าทั้งหลาย และทรงพระเมตตาประทานพระพร %cross แก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ที่เข้ามารับการโปรยเถ้านี้ ขอให้ทุกคนประกอบกิจกรรม แสดงการกลับใจตลอดเทศกาลมหาพรต เพื่อจะได้มีจิตใจสะอาดผ่องใส เหมาะสมจะสมโภชปัสกา ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระบุตร ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย (รับ) อาแมน (หรือ) ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ไม่ทรงปรารถนาให้คนบาปต้องตาย แต่ทรงปรารถนาให้เขาเป็นทุกข์กลับใจ โปรดสดับฟังคำวอนขอของข้าพเจ้าทั้งหลาย และทรงพระกรุณาเสก %cross เถ้านี้ที่จะใช้โปรยศีรษะ เพื่อข้าพเจ้าทั้งหลายจะได้สำนึกว่าตนเป็นเพียงฝุ่นดิน ที่จะต้องกลับเป็นฝุ่นดินอีก ข้าพเจ้าทั้งหลายจะได้พยายามทำกิจการใช้โทษบาป ตลอดเทศกาลมหาพรต เพื่อสมจะได้รับการอภัยบาป มีชีวิตใหม่ตามรูปแบบของพระบุตร ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพด้วยเถิด พระองค์ท่านทรงจำเริญ และครองราชย์ ตลอดนิรันดร (รับ) อาแมน (พระสงฆ์ใช้น้ำเสกพรมเถ้า และโปรยเถ้าบนศีรษะผู้ที่เข้ามารับ กล่าวว่า) จงกลับใจและเชื่อข่าวดีเถิด (มก 1:15) (หรือ) จงระลึกเถิดว่า ท่านเป็นแต่ฝุ่นดิน และจะกลับเป็นฝุ่นดินอีก (เทียบ ปฐก 3:19) (ขับบทเพลงต่อไปนี้) เพลงลำนำที่ 1 ให้เราเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย โปรยเถ้า สวมเสื้อกระสอบ ให้เราจำศีลอดอาหารและร้องคร่ำครวญเป็นทุกข์เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า พระองค์ทรงพระเมตตาล้นเหลือ ทรงพร้อมที่จะประทานอภัยโทษบาปของเราเสมอ เพลงลำนำที่ 2 (เทียบ ยอล 2:17, อสธ 4:17) จงให้บรรดาสมณะและผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าร่ำให้ ระหว่างเฉลียงกับพระแท่นบูชา ทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเมตตาต่อประชากรของพระองค์เถิด อย่าให้มรดกของพระองค์ถูกลบหลู่ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขออย่าทรงปิดปากผู้ที่สรรเสริญพระองค์เลย” เพลงลำนำที่ 3 (สดด 51:2) ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงล้างข้าพเจ้าให้พ้นจากความผิดของข้าพเจ้า (หรือเพลงที่ 49) พระองค์ทรงเมตตาเทอญ โปรดทรงพระเมตตาเทอญ (ขณะที่พระสงฆ์โปรยเถ้า ให้ขับบทเพลงสดุดีที่ 51:1-19 สลับกับบทสร้อยที่ 49) สร้อย ข้าแต่พระเจ้า โปรดล้างข้าพเจ้าให้พ้นจากความชั่วช้า (หรือเพลงที่ 49) พระองค์ทรงเมตตาเถิด โปรดทรงพระเมตตาเทอญ เพลงสดุดี (สดด 51:1-19) ข้าแต่พระเจ้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าตามความรักมั่นคงของพระองค์เถิด โปรดทรงลบล้างการล่วงละเมิดของข้าพเจ้าเพราะพระกรุณาของพระองค์ โปรดทรงล้างข้าพเจ้าให้สะอาดหมดจดจากความผิดของข้าพเจ้า โปรดชำระข้าพเจ้าให้บริสุทธิ์จากบาปที่ข้าพเจ้าได้กระทำ เพราะข้าพเจ้าตระหนักดีถึงการล่วงละเมิดของตน บาปของข้าพเจ้าอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้าเสมอ ข้าพเจ้าทำบาปผิดต่อพระองค์ พระองค์แต่ผู้เดียว ข้าพเจ้ากระทำสิ่งที่ทรงเห็นว่าชั่วร้าย ข้าพเจ้ายอมรับผิด เพื่อพระองค์จะทรงสำแดงความเที่ยงธรรมที่ทรงช่วยให้รอดพ้น เมื่อทรงพิพากษา และจะทรงชนะคดี เมื่อทรงถูกไต่สวน ใช่แล้ว ข้าพเจ้ามีความผิดตั้งแต่เกิด เป็นคนบาปตั้งแต่มารดาตั้งครรภ์ ถูกแล้ว พระองค์ทรงปรารถนาความจริงใจในข้าพเจ้า ทรงสอนปรีชาญาณในส่วนลึกของจิตใจข้าพเจ้า โปรดทรงชำระข้าพเจ้าด้วยกิ่งหุสบ แล้วข้าพเจ้าจะบริสุทธิ์ โปรดทรงล้างข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะขาวกว่าหิมะ ขอให้ข้าพเจ้าประสบความชื่นบานและยินดี และกระดูกที่พระองค์ทรงหักจะเปรมปรีดิ์ที่หายเป็นปรกติ โปรดเบือนพระพักตร์จากบาปของข้าพเจ้า และทรงลบล้างความผิดของข้าพเจ้าให้สิ้นไป ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงสร้างใจที่ใสสะอาดไว้ในข้าพเจ้า โปรดทรงฟื้นฟูดวงจิตของข้าพเจ้าให้มั่นคง ขออย่าทรงผลักไสข้าพเจ้าไปจากพระพักตร์ ขออย่าทรงยกพระจิตศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ออกจากข้าพเจ้าเลย ขอพระองค์ประทานความชื่นชมที่ทรงช่วยให้รอดพ้นคืนให้ข้าพเจ้า ขอพระองค์ทรงค้ำจุนจิตเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไว้ในข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะได้สอนผู้ล่วงละเมิดให้รู้จักทางของพระองค์ แล้วคนบาปก็จะกลับมาหาพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า พระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากโทษประหาร แล้วลิ้นของข้าพเจ้าจะร้องสรรเสริญความเที่ยงธรรมของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า พระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากโทษประหาร แล้วลิ้นของข้าพเจ้าจะร้องสรรเสริญความเที่ยงธรรมของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเผยริมฝีปากของข้าพเจ้า แล้วปากของข้าพเจ้าจะกล่าวสรรเสริญพระองค์ พระองค์ไม่พอพระทัยเครื่องบูชา ถ้าข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชา พระองค์จะไม่ทรงรับ ข้าแต่พระเจ้า เครื่องบูชาของข้าพเจ้าคือดวงจิตที่เป็นทุกข์ ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ไม่ทรงรังเกียจใจที่เป็นทุกข์และถ่อมตน ขอพระองค์ทรงกระทำดีต่อศิโยนด้วยพระทัยกรุณา ขอทรงสร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ แล้วพระองค์จะพอพระทัยในเครื่องบูชาที่ทรงกำหนด ทั้งสัตว์และธัญบูชาที่ต้องเผาทั้งหมด โคเพศผู้ก็จะถูกนำมาถวายยังพระแท่นบูชาของพระองค์ เพลงตอบรับ ให้เราแก้ไขความผิดที่ได้หลงกระทำลงไป มิฉะนั้น เมื่อความตายจู่โจมมาโดยไม่ทันรู้ตัว เราจะแสวงหาเวลาที่จะกลับใจใช้โทษบาป แต่จะหาไม่พบ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงกรุณาปรานีข้าพเจ้าทั้งหลาย เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาปผิดต่อพระองค์ (หรือเพลงที่ 47) โปรดทรงพระเมตตาเถิด พระเจ้าข้า เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดเสด็จมาช่วยข้าพเจ้าทั้งหลาย โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้น เดชะพระนามของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า โปรดกรุณาปรานีข้าพเจ้าทั้งหลาย เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้กระทำผิดต่อพระองค์ (หรือเพลงที่ 47) โปรดทรงพระเมตตาเถิดพระเจ้าข้า เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป
หมายเหตุ : จะใช้บทลำนำอื่นสลับกับเพลงสดุดีที่ 51 ทีละข้อก็ได้ หรือจะร้องเพลงอื่น ที่เหมาะสมก็ได้
(โปรยเถ้าเสร็จแล้ว พระสงฆ์ล้างมือ สวดบทภาวนาของมวลชน ไม่มีบทข้าพเจ้าเชื่อ)
(โปรยเถ้าเสร็จแล้ว พระสงฆ์ล้างมือ สวดบทภาวนาของมวลชน ไม่มีบทข้าพเจ้าเชื่อ)
16. ต่อจากนั้นกล่าว “บทภาวนาของมวลชน”
ภาคบูชาขอบพระคุณ
ก. เตรียมเครื่องบูชา
17. หลังจากนั้นเริ่ม “เพลงเตรียมเครื่องบูชา” ระหว่างนั้น ผู้ช่วยพิธีนำผ้ารองแผ่นศีล (Corporale) ผ้าเช็ดถ้วยเหล้าองุ่น (Purificatorium) และหนังสือพิธีมาวางบนพระแท่นบูชา
18. เพื่อแสดงว่า สัตบุรุษมีส่วนร่วมในการถวายบูชา ควรให้เขานำแผ่นศีล (Hostia) และเหล้าองุ่น ซึ่งจะใช้ในพิธี หรือนำทานอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับพระศาสนจักรและคนจนมาถวายก็ได้
19. พระสงฆ์ยืนอยู่ที่พระแท่นบูชา รับแผ่นศีลในจานรองแผ่นศีล ยกขึ้นเหนือพระแท่นบูชาเล็กน้อย กล่าวว่า
ข้าแต่พระเจ้าแห่งสกลโลก ขอถวายพระพร
พระองค์มีพระทัยเมตตา ประทานปัง
ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายกำลังถวายอยู่นี้
อันเป็นผลมาจากแผ่นดินและน้ำพักน้ำแรงของมนุษย์
และจะเปลี่ยนเป็นอาหารบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีชีวิต
พระองค์มีพระทัยเมตตา ประทานปัง
ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายกำลังถวายอยู่นี้
อันเป็นผลมาจากแผ่นดินและน้ำพักน้ำแรงของมนุษย์
และจะเปลี่ยนเป็นอาหารบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีชีวิต
พระสงฆ์วางแผ่นศีลในจานรองลงบนผ้ารองศีล ถ้าไม่ร้องเพลง “เตรียมเครื่องบูชา” พระสงฆ์สวดบทดังกล่าวข้างต้นนี้ดังๆ ก็ได้
ในกรณีนี้สัตบุรุษอาจตอบ
ขอถวายพระพรแด่พระเจ้าตลอดนิรันดร
20. สังฆานุกรหรือพระสงฆ์ รินน้ำเล็กน้อยปนเหล้าองุ่นในถ้วย กล่าวเบาๆ ว่า
ดั่งน้ำและเหล้าองุ่นที่ผสมเข้าด้วยกัน
อันเป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์นี้
ขอพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย
ได้ร่วมในพระเทวภาพของพระคริสตเจ้า
ผู้ทรงถ่อมองค์มารับสภาพมนุษย์
อันเป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์นี้
ขอพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย
ได้ร่วมในพระเทวภาพของพระคริสตเจ้า
ผู้ทรงถ่อมองค์มารับสภาพมนุษย์
21. ครั้นแล้ว พระสงฆ์ยกถ้วยเหล้าองุ่นเหนือพระแท่นบูชาเล็กน้อย กล่าวเบาๆ ว่า
ข้าแต่พระเจ้าแห่งสกลโลก ขอถวายพระพร
พระองค์มีพระทัยเมตตา ประทานเหล้าองุ่น
ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายกำลังถวายอยู่นี้
อันเป็นผลมาจากต้นองุ่นและน้ำพักน้ำแรงของมนุษย์
และจะเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่ม ชุบเลี้ยงจิตใจข้าพเจ้าทั้งหลาย
พระองค์มีพระทัยเมตตา ประทานเหล้าองุ่น
ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายกำลังถวายอยู่นี้
อันเป็นผลมาจากต้นองุ่นและน้ำพักน้ำแรงของมนุษย์
และจะเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่ม ชุบเลี้ยงจิตใจข้าพเจ้าทั้งหลาย
ต่อจากนั้น พระสงฆ์วางถ้วยเหล้าองุ่นลงบนผ้ารองศีล
สัตบุรุษตอบว่า
ขอถวายพระพรแด่พระเจ้าตลอดนิรันดร
22. ครั้นแล้ว พระสงฆ์โค้งคำนับ กล่าวเบาๆ ว่า
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดทรงพระกรุณายอมรับข้าพเจ้าทั้งหลาย
ผู้ตรมตรอมถ่อมตน และโปรดให้การถวายบูชา
ของข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้ เป็นที่พอพระทัยเทอญ
โปรดทรงพระกรุณายอมรับข้าพเจ้าทั้งหลาย
ผู้ตรมตรอมถ่อมตน และโปรดให้การถวายบูชา
ของข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้ เป็นที่พอพระทัยเทอญ
23. พระสงฆ์ถวายกำยานให้เครื่องบูชาและพระแท่นบูชา สุดแต่กรณี
ครั้นแล้วสังฆานุกรหรือผู้ช่วยพิธีถวายกำยานให้พระสงฆ์และสัตบุรุษ
24. อันดับต่อไป พระสงฆ์ยืนที่ปลายพระแท่นบูชา ล้างมือ กล่าวเบาๆ ว่า
โปรดชำระล้างความผิดและบาปของข้าพเจ้า ให้หมดสิ้นไปเถิดพระเจ้าข้า
25. ทุกคนยืน
พระสงฆ์ยืนกลางพระแท่นบูชา หันไปทางสัตบุรุษ กางแขนเล็กน้อยหรือพนมมือ กล่าวว่า
พี่น้อง จงภาวนาขอให้พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ
ทรงรับการถวายบูชาของข้าพเจ้าและของท่านทั้งหลายเถิด
ทรงรับการถวายบูชาของข้าพเจ้าและของท่านทั้งหลายเถิด
สัตบุรุษตอบว่า
ขอพระเจ้าทรงรับการถวายบูชานี้ เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์
ทั้งเพื่อประโยชน์ของชาวเรา และพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ด้วยเทอญ
ทั้งเพื่อประโยชน์ของชาวเรา และพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ด้วยเทอญ
26.ครั้นแล้ว พระสงฆ์พนมมือกล่าว “บทภาวนาเตรียมเครื่องบูชา”
บทภาวนาเตรียมเครื่องบูชา
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายทูลถวายสักการบูชา ขณะเริ่มต้นเทศกาลมหาพรตอย่างสง่านี้ ขอกราบวอนพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายกลับใจใช้โทษบาป บำเพ็ญกิจเมตตาปรานี และละเว้นความสนุกที่ไม่ถูกต้อง จะได้มีใจบริสุทธิ์พ้นจากบาป เป็นผู้เหมาะสมจะฉลองการระลึกถึงพระทรมานของพระบุตร ด้วยใจเลื่อมใสศรัทธาด้วยเถิด พระองค์ท่านทรงจำเริญและครองราชย์ตลอดนิรันดร
บทนำขอบพระคุณ สำหรับเทศกาลมหาพรต แบบที่ 3 หรือ 4
จบแล้ว สัตบุรุษตอบว่า
อาเมน
ข. บทขอบพระคุณ
บทขอบพระคุณที่ 2
ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าจอมจักรวาล
พระสิริรุ่งโรจน์แผ่ไปทั่วฟ้าดิน สาธุการพระเจ้าสูงสุด
ขอถวายพระพรแด่ผู้เสด็จมาในพระนามพระเจ้า สาธุการพระเจ้าสูงสุด
พระสิริรุ่งโรจน์แผ่ไปทั่วฟ้าดิน สาธุการพระเจ้าสูงสุด
ขอถวายพระพรแด่ผู้เสด็จมาในพระนามพระเจ้า สาธุการพระเจ้าสูงสุด
ค. รับศีลมหาสนิท
128. พระสงฆ์วางถ้วยเหล้าองุ่นและแผ่นศีลในจานรอง พนมมือกล่าวว่า
พระเยซูเจ้าทรงสอนเรา ให้เรียกพระเจ้าว่าพระบิดา
เราจึงภาวนาว่า
เราจึงภาวนาว่า
ให้เราภาวนาตามที่พระคริสตเจ้าทรงสอน
พระเจ้าทรงรักเรามาก
โปรดให้เราได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระองค์
และเราก็เป็นเช่นนั้น เราจึงภาวนาด้วยความมั่นใจว่า
โปรดให้เราได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระองค์
และเราก็เป็นเช่นนั้น เราจึงภาวนาด้วยความมั่นใจว่า
แล้วยังพนมมือ กล่าวพร้อมกับสัตบุรุษว่า
ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย
พระองค์สถิตในสวรรค์
พระนามพระองค์ จงเป็นที่สักการะ
พระอาณาจักรจงมาถึง
พระประสงค์ จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์
โปรดประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้
โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น
โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้แพ้การผจญ
แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ
พระองค์สถิตในสวรรค์
พระนามพระองค์ จงเป็นที่สักการะ
พระอาณาจักรจงมาถึง
พระประสงค์ จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์
โปรดประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้
โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น
โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้แพ้การผจญ
แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ
126. พระสงฆ์พนมมือ กล่าวเสียงดังต่อไปคนเดียวว่า
โปรดเถิด พระเจ้าข้า
โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น
โปรดประทานสันติสุขทุกวันนี้ ทรงพระกรุณาให้พ้นบาป
และปลอดภัยจากความวุ่นวายใดๆ ตลอดไป
ขณะที่หวังจะได้รับความสุข
และรอรับเสด็จพระเยซูคริสตเจ้า
พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้าทั้งหลาย
โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น
โปรดประทานสันติสุขทุกวันนี้ ทรงพระกรุณาให้พ้นบาป
และปลอดภัยจากความวุ่นวายใดๆ ตลอดไป
ขณะที่หวังจะได้รับความสุข
และรอรับเสด็จพระเยซูคริสตเจ้า
พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้าทั้งหลาย
เหตุว่า พระอาณาจักร พระอานุภาพ และพระสิริรุ่งโรจน์ เป็นของพระองค์ตลอดนิรันดร
130. ต่อจากนั้น พระสงฆ์พนมมือ กล่าวต่อไปว่า
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ตรัสกับอัครสาวกว่า
“เรามอบสันติสุขให้ท่าน เราให้สันติสุขของเราแก่ท่าน”
โปรดอย่าทรงถือโทษข้าพเจ้า แต่โปรดทอดพระเนตร
เห็นความเชื่อในพระศาสนจักรของพระองค์
และโปรดให้พระศาสนจักรสงบราบรื่น มีสามัคคีธรรม
ตามพระประสงค์ของพระองค์
ผู้ทรงจำเริญและครองราชย์ตลอดนิรันดร
“เรามอบสันติสุขให้ท่าน เราให้สันติสุขของเราแก่ท่าน”
โปรดอย่าทรงถือโทษข้าพเจ้า แต่โปรดทอดพระเนตร
เห็นความเชื่อในพระศาสนจักรของพระองค์
และโปรดให้พระศาสนจักรสงบราบรื่น มีสามัคคีธรรม
ตามพระประสงค์ของพระองค์
ผู้ทรงจำเริญและครองราชย์ตลอดนิรันดร
สัตบุรุษตอบว่า
อาเมน
128. พระสงฆ์กางแขนเล็กน้อยหรือพนมมือ กล่าวต่อไปว่า
ขอให้สันติสุขของพระคริสตเจ้าสถิตกับท่านทั้งหลายเสมอ
สัตบุรุษตอบว่า
และสถิตกับท่านด้วย
129. อันดับต่อไป หากเห็นเหมาะสม สังฆานุกร หรือพระสงฆ์กล่าวต่อไปว่า
ให้เรามอบสันติสุขของพระคริสตเจ้าแก่กันและกัน
ทุกคนแสดงความเป็นมิตรต่อกันตามขนบธรรมเนียมท้องถิ่น
130. พระสงฆ์มอบสันติสุขให้แก่สังฆานุกรหรือผู้ช่วย
ครั้นแล้วหยิบแผ่นศีล บิเหนือจานรองแผ่นศีล ใส่ชิ้นเล็กลงในถ้วย กล่าวเบาๆ ว่า
ขอพระกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้าที่รวมกันนี้
ทรงบันดาลให้เราทุกคนผู้รับศีลนี้มีชีวิตนิรันดร
ทรงบันดาลให้เราทุกคนผู้รับศีลนี้มีชีวิตนิรันดร
131. ระหว่างนั้น ขับร้องหรือกล่าวว่า
ลูกแกะพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก ทรงพระกรุณาเทอญ
ลูกแกะพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก ทรงพระกรุณาเทอญ
ลูกแกะพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก โปรดประทานสันติสุขเทอญ
ลูกแกะพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก ทรงพระกรุณาเทอญ
ลูกแกะพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก โปรดประทานสันติสุขเทอญ
บทนี้ซ้ำได้หลายๆ ครั้ง ถ้ายังบิปังไม่เสร็จ แต่ครั้งสุดท้ายให้ลงท้ายว่า “โปรดประทานสันติสุขเทอญ”
132. ครั้นแล้วพระสงฆ์พนมมือ กล่าวเบาๆ ว่า
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า บุตรพระเจ้าผู้ทรงชีวิต
พระองค์สิ้นพระชนม์ตามพระประสงค์ของพระบิดา
เพื่อบันดาลให้โลกมีชีวิต อาศัยพระจิตเจ้าทรงช่วยเหลือ
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากความชั่วร้าย และภยันตรายทั้งปวง
อาศัยพระกายและพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์
โปรดให้ข้าพเจ้ายึดมั่นปฏิบัติตามพระบัญญัติเสมอ
และอย่าปล่อยให้พรากจากพระองค์เลย
พระองค์สิ้นพระชนม์ตามพระประสงค์ของพระบิดา
เพื่อบันดาลให้โลกมีชีวิต อาศัยพระจิตเจ้าทรงช่วยเหลือ
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากความชั่วร้าย และภยันตรายทั้งปวง
อาศัยพระกายและพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์
โปรดให้ข้าพเจ้ายึดมั่นปฏิบัติตามพระบัญญัติเสมอ
และอย่าปล่อยให้พรากจากพระองค์เลย
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า
โปรดอย่าให้การรับพระกายและพระโลหิตของพระองค์
เป็นการตัดสินลงโทษ แต่เพราะพระองค์ทรงพระเมตตา
โปรดให้เป็นการคุ้มครอง บำบัดรักษาข้าพเจ้าทั้งกายและใจ ด้วยเทอญ
โปรดอย่าให้การรับพระกายและพระโลหิตของพระองค์
เป็นการตัดสินลงโทษ แต่เพราะพระองค์ทรงพระเมตตา
โปรดให้เป็นการคุ้มครอง บำบัดรักษาข้าพเจ้าทั้งกายและใจ ด้วยเทอญ
133. พระสงฆ์พนมมือไหว้ ยกแผ่นศีลเหนือจานรองแผ่นศีลหรือยกเหนือถ้วยเหล้าองุ่น
หันไปทางสัตบุรุษกล่าวเสียงดังว่า
หันไปทางสัตบุรุษกล่าวเสียงดังว่า
นี่คือลูกแกะพระเจ้า นี่คือผู้ทรงลบล้างบาปของโลก
ผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกมาร่วมงานเลี้ยงของพระองค์ ย่อมเป็นสุข
ผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกมาร่วมงานเลี้ยงของพระองค์ ย่อมเป็นสุข
134. ครั้นแล้ว พระสงฆ์กับสัตบุรุษกล่าวพร้อมกันครั้งเดียวว่า
พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จมาประทับอยู่กับข้าพเจ้า
โปรดตรัสเพียงพระวาจาเดียว แล้วจิตใจข้าพเจ้าก็จะบริสุทธิ์
โปรดตรัสเพียงพระวาจาเดียว แล้วจิตใจข้าพเจ้าก็จะบริสุทธิ์
135. พระสงฆ์กล่าวเบาๆ ว่า
ขอพระกายพระคริสตเจ้า
คุ้มครองและนำข้าพเจ้าไปสู่ชีวิตนิรันดร
คุ้มครองและนำข้าพเจ้าไปสู่ชีวิตนิรันดร
ครั้นแล้วพระสงฆ์รับพระกายด้วยความเคารพ
ต่อจากนั้น ยกถ้วยเหล้าองุ่น กล่าวเบาๆ ว่า
ขอพระโลหิตพระคริสตเจ้า
คุ้มครองและนำข้าพเจ้าไปสู่ชีวิตนิรันดร
คุ้มครองและนำข้าพเจ้าไปสู่ชีวิตนิรันดร
ครั้นแล้วพระสงฆ์รับพระโลหิตด้วยความเคารพ
136. ต่อจากนั้น พระสงฆ์นำแผ่นศีลในจานรองศีลหรือในผอบศีล เดินไปหาผู้รับศีล
ยกแผ่นศีลขึ้นเล็กน้อย ให้ผู้รับแต่ละคนเห็น พร้อมกล่าวว่า
ยกแผ่นศีลขึ้นเล็กน้อย ให้ผู้รับแต่ละคนเห็น พร้อมกล่าวว่า
พระกายพระคริสตเจ้า
ผู้รับศีลตอบ
อาเมน
พระสงฆ์ส่งศีลให้ผู้รับศีล ถ้าสังฆานุกรส่งศีล ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน
137. หากมีผู้รับศีลทั้งพระกายและพระโลหิต ให้ปฏิบัติตามกฎที่กำหนดไว้
138. ขณะที่พระสงฆ์รับพระกาย ให้เริ่มขับร้อง “เพลงรับศีล”
เพลงรับศีล
เทียบ สดด 1:2-3
ผู้หมั่นรำพึงถึงธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งวันทั้งคืน ย่อมบังเกิดผลดีตามเวลา
139. เมื่อส่งศีลเสร็จแล้ว พระสงฆ์หรือสังฆานุกรเก็บเศษศีลบนจานรองใส่ในถ้วย แล้วล้างถ้วย
ขณะล้างถ้วยพระสงฆ์กล่าวเบาๆ ว่า
ขณะล้างถ้วยพระสงฆ์กล่าวเบาๆ ว่า
ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายรับของประทานนี้ไว้
ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ให้เป็นการคุ้มครองบำบัดรักษา
ทั้งกายและใจ บัดนี้และตลอดไปด้วยเถิด
ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ให้เป็นการคุ้มครองบำบัดรักษา
ทั้งกายและใจ บัดนี้และตลอดไปด้วยเถิด
140. หลังจากนั้น พระสงฆ์กลับไปที่นั่งก็ได้ ทุกคนภาวนาขอบพระคุณพระเจ้า เงียบสักครู่หนึ่ง หรือขับร้อง “เพลงสดุดี” หรือ “เพลงสรรเสริญ” ก็ได้ สุดแต่จะเห็นสมควร
141. ต่อจากนั้น พระสงฆ์ยืนอยู่ตรงที่นั่ง หรือที่พระแท่นบูชา พนมมือกล่าวว่า
ให้เราภาวนา
ทุกคนพร้อมกับพระสงฆ์ภาวนาเงียบๆ สักครู่หนึ่ง เว้นแต่ได้ภาวนาเงียบมาก่อน
แล้วพระสงฆ์พนมมือ กล่าว “บทภาวนาหลังรับศีล”
แล้วพระสงฆ์พนมมือ กล่าว “บทภาวนาหลังรับศีล”
บทภาวนาหลังรับศีล
ข้าแต่พระเจ้า ขอศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับ ช่วยเหลือข้าพเจ้าทั้งหลาย ให้การจำศีลอดอาหารนี้เป็นที่พอพระทัย และเป็นโอสถบำบัดรักษาจิตใจด้วยเถิด ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จบแล้ว สัตบุรุษตอบ
อาเมน
ปิดพิธี
144. หากมีเรื่องราวที่ต้องการแจ้งให้สัตบุรุษทราบ ให้ประกาศสั้นๆ ในตอนนี้
145. ต่อจากนั้น พระสงฆ์กางแขนเล็กน้อยหรือพนมมือ กล่าวว่า
พระเจ้าสถิตกับท่าน
สัตบุรุษตอบว่า
และสถิตกับท่านด้วย
ขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ✞ พระบิดา พระบุตร และพระจิต
ประทานพระพรแก่ท่านทั้งหลาย
ประทานพระพรแก่ท่านทั้งหลาย
อาแมน
บทภาวนาอวยพรประชากร
(พระสงฆ์ปกมือเหนือสัตบุรุษ สวดบทภาวนานี้)
ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณา ให้ผู้ที่กราบนมัสการพระอานุภาพโดยมีจิตใจสำนึกผิด เหมาะสมจะได้รับรางวัลที่ทรงสัญญาไว้ด้วยเถิด ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ พระบิดา และพระบุตร 10016 และพระจิต ประทานพระพรแก่ท่านทั้งหลายเทอญ
(ใช้รูปแบบนี้ในการสวดบทภาวนาอวยพรประชากร ตลอดเทศกาลมหาพรต)
146. ครั้นแล้ว สังฆานุกรหรือพระสงฆ์พนมมือ กล่าวว่า
พิธีบูชาขอบพระคุณจบแล้ว
จงไปปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้าเถิด
จงไปปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้าเถิด
ขอขอบพระคุณพระเจ้า
พิธีบูชาขอบพระคุณจบแล้ว
จงไปในสันติสุขของพระคริสตเจ้าเถิด
จงไปในสันติสุขของพระคริสตเจ้าเถิด
ขอขอบพระคุณพระเจ้า
พิธีบูชาขอบพระคุณจบแล้ว
จงชื่นชมยินดีและไปประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว (อัลเลลูยา อัลเลลูยา)
จงชื่นชมยินดีและไปประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว (อัลเลลูยา อัลเลลูยา)
ขอขอบพระคุณพระเจ้า (อัลเลลูยา อัลเลลูยา)
147. พระสงฆ์กราบแท่นบูชาเหมือนตอนเริ่มพิธี ก่อนจากไป พระสงฆ์ทำความเคารพพร้อมกับผู้ช่วยตามแบบที่กำหนด (ไหว้หรือโค้งคำนับ)
148. หากมีศาสนพิธีกรรมอื่นใดที่ต่อเนื่องมาทันที ให้งดส่วนปิดพิธี
ปรับปรุงครั้งสุดท้าย : 8 มิ.ย. 2019
ติดต่อ : admin@thmass.online